2. การกรอกประวัติส่วนตัว (Personal Details) 2. 1 การเขียนชื่อ เขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งชื่อ (Name) และนามสกุล (Last Name / Surname) โดยใส่คำนำหน้าชื่อด้วย เช่น Mr., Mrs., Miss., Ms., บางแห่งจะให้เขียนทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง Name: Mr. SOMBAT RAKDI (English) NAME: นายสมบัติ รักดี (THAI) 2.
แบบฟอร์มสมัครงานภาษาอังกฤษ วิธีกรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ อ. ภูษิต รัตนวงศ์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ใบสมัครงานที่ผู้สมัครต้องกรอกตอนที่ไปสมัครงานตามบริษัท ห้างร้านต่างๆ นั้น จะมีลักษณะต่างๆ กันในแต่ละแห่ง แต่โดยส่วนรวมแล้วมักจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันแทบทุกแห่ง โดยมีรายละเอียดการกรอกดังนี้ 1. หลักการเบื้องต้น (How to complete an application form) 1. 1 ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ของใบสมัคร (Read clear what the procedures are) เช่น ให้เขียนหรือพิมพ์ หรือข้อความตอนใดที่ต้องเขียนด้วยอักษรตัวพิมพ์ 1. 2 ตอบคำถามในใบสมัครให้ครบถ้วย (Complete all question) ข้อความใดที่ไม่ต้องการก็ให้ทำเครื่องหมายหรือใส่ข้าความลงไป 1. 3 กรอกใบสมัครให้ดูน่าสนใจที่สุด (Make it clean, clear, accurate interesting, and well- presented) หมายถึงเขียนให้สะอาดเรียบร้อยและเลือกเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุด 1. 4 เตรียมคำถามที่อาจถูกถามจากการกรอก (Prepare to be questioned about what you filled in) เป็นการเตรียมคำอธิบายว่าสิ่งที่เรากรอกลงไปนั้น ถ้าต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมจะอธิบายเพิ่มเติมอย่างไร 1. 5 กรอกใบสมัครให้เสร็จโดยเร็วและรีบส่งทันที (Complete and submit an application as soon as possible).
3 สถานภาพทางการสมรส (Marital Status) และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ(Personal Data) ผู้สมัครต้องกาเครื่องหมาย / ลงหน้าช่องที่เว้นไว้ Single (โสด) Married (แต่งงานแล้ว) Widowed (เป็นหม้าย) Married with no children (แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร) Divorced (หย่า) Separated (แยกทางกัน) - ในกรณีที่แต่งงานแล้ว จะต้องกรอก Marriage Cert. No.. (หมายเลขใบทะเบียนสมรส) Issued at. (ออกให้ที่อำเภอ หรือเขต) Dated Issued (วัน เดือน ปีที่ออกใบทะเบียนสมรส) Spouse (ชื่อคู่สมรส) Birthdate (วัน เดือน ปีเกิด) เช่น May 1, 1970 Birthplace / Nataive Place (สถานที่เกิด) ให้เขียนชื่อจังหวัดที่เกิด เช่น Pattani ID Card No. (เลขประจำตัวบัตรประชาชน) เช่น 2 9099 00050 11 6 Issued at (สถานที่ออกบัตร) เช่น Amphoe Panare, Pattani Date Issued / Dated (วันที่ออกบัตร) เช่น October 12, 1990 Expiry date / Valid Until (วันที่บัตรหมดอายุ) เช่น October 11, 1996 Religion (ศาสนา) เช่น Buddhism / Islam / Catholic / Protestant Taxpayers No. (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) Social Security No. (เลขประจำตัวบัตรประกันสังคม) 2. 4 สถานภาพทางการทหาร (Military Status) มี 3 สถานภาพคือ Serving หมายถึง การอยู่ในระหว่างรับราชการทหาร เช่น กำลังอยู่ในภาวะเป็นทหารเกณฑ์ Completed หมายถึง ผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้วโดยการเป็นทหารเกณฑ์ Exempted หมายถึง ได้รับการยกเว้นโดยการเรียน ร.
2. การกรอกประวัติส่วนตัว (Personal Details) 2. 1 การเขียนชื่อ เขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งชื่อ (Name) และนามสกุล (Last Name / Surname) โดยใส่คำนำหน้าชื่อด้วย เช่น Mr., MRS., MISS., MS. บางแห่งจะให้เขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง Name: MR. SEMBAT RAKDI (English) Name: นายสมบัติ รักดี (THAI) 2. 2 การเขียนที่อยู่ (Address) ควรเขียนให้ละเอียด การเขียนชื่อทางภูมิศาสตร์ (Geographical name) นั้นสามารถเขียนทับศัพท์ได้เลย เช่น Soi (ซอย) Thanon (ถนน – ต่อคำว่าถนนสามารถใช้คำว่า Road แทนได้เพราะเป็นกันโดยทั่วไป) Amphoe / Khet (อำเภอ / เขต) Changwat (จังหวัด – จะเขียนนำหน้าชื่อหรือไม่ก็ได้ เพราะชื่อจังหวัดต่างๆ เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว) และอย่าลืมใส่รหัสไปรษณีย์ Present Address 622 / 151 Soi Suan Luang, Charansanitwong Rd., Khet Bangkoknoi, Bangkok 10700
Exempted with ROTC หรือบางครั้งจะมีคำถามกว้าง ๆ เราก็เลือกตอบได้ เช่น State your military service No Military Service Obligation (พ้นพันธะทางทหาร) **หมายเหตุ ศัพท์ภาษอังกฤษ การเกณฑ์ทหาร แบบอังกฤษจะใช้ว่า Drafting (Drafted) ส่วน แบบอเมริกันจะใช้ว่า Conscription (Conscripted) If you are under the military age, indicate when your conscription is die,.. (ถ้าคุณมีอายุไม่ถึงการเกณฑ์ทหาร ให้ระบุเวลาที่ถึงกำหนดต้องเกณฑ์ทหาร) 2.